แฟชั่นวัยรุ่น สไตล์เกาหลี

แฟชั่นวัยรุ่น สไตล์เกาหลี
การแต่งตัว แฟชั่นสไตล์วัยรุ่นเกาหลี Intrend Teen Korea Fashion

วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สาวๆวัยรุ่นควรรู้ ฉีดยาให้ผิวขาว จริงหรือ?


สิ่งที่สาวๆวัยรุ่นสไตล์เกาหลีควรรู้

ฉีดยาให้ผิวขาว จริงหรือ?

กำลังเป็นกระแสมาแรงในบ้านเรา กับการฉีดกลูต้าไธโอนเพื่อเปลี่ยนสีผิวให้ขาวขึ้น ซึ่งในตอนนี้ทางการแพทย์ได้ออกมาประกาศแล้วว่าเป็นสารอันตราย หากเกิดอาการแพ้อาจถึงตายได้ อีกทั้งยังผิดกฎหมายอีกด้วย หากสถานเสริมความงามที่ใดทำการฉีดเข้าร่างกาย ให้กับผู้เข้ารับบริการ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีใครอยากฟัง กลูต้าไธโอน กลับยิ่งแพร่ระบาดมากขึ้น

เพราะการให้บริการฉีดผิวขาวนั้นถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งยังอันตรายจนอาจจะเกิดผลข้างเคียง เช่น เป็นผื่นแดง บวมตามผิวหนัง ความดันโลหิตต่ำ หอบหืดเฉียบพลัน หลอดเลือดตีบหายใจติดขัด หรือถึงกับเสียชีวิตได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายดังนี้

         1. ผิดพระราชบัญญัติ ยา คือลักลอบขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา

         2. พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ มีความผิดประกอบวิชาชีพเวชกรรม
 
   โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนรับอนุญาต
 
         3. ผิดพระราชบัญญัติสถานพยาบาล โดยดำเนินกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต

         4. ผิดตามพ.ร.บ.อาหารโดยจำหน่ายอาหารเสริมที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน อย.
         

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยังไม่ได้รับสารกลูต้าไธโอนขึ้นทะเบียน เพราะฉะนั้นสารกลูต้าไธโอนที่มีใช้ในขณะนี้ ถือว่าเป็นการลักลอบผิดกฎหมาย และโดยปกติแล้วสารกลูต้าไธโอนนั้นจะใช้ในการรักษาโรคมะเร็งในตับ โรคตับอักเสบ ซึ่งหากนำไปใช้แบบผิด ๆ จะทำให้เป็นอันตรายแก่ผู้ที่เข้ารับบริการ "สถานพยาบาลและคลินิกเสริมความงามต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด คือ ห้ามใช้สารกลูต้าไธโอนเพื่อการเสริมความงาม"

          นอกจากนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า สารดังกล่าวนั้นสามารถทำให้ผิวนั้นขาวขึ้นได้จริง ทั้งองค์ความรู้ที่ถูกต้องหรือผลการวิจัยต่าง ๆ ก็ยังไม่มี เพราะฉะนั้นก็ยังตัดสินไม่ได้ว่า สารกลูต้าไธโอนจะไปทำให้สีผิวของเราจากคล้ำให้กลายเป็นผิวขาวได้ อีกทั้งอันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะตามมาได้หากยังใช้โดยวิธีผิด ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขได้มีระเบียบออกมาห้ามไม่ให้แพทย์ใช้การรักษาด้วย วิธีนี้ ทำให้ประชาชนที่มีความเชื่อว่าฉีดแล้วจะขาวไปฉีดกับผู้ที่ไม่ใช่บุคลากรทาง การแพทย์ ดังเช่นที่เป็นข่าว และยังมีการขายทาง internet มากมาย จึงขอนำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังอีกครั้ง และสามารถดูรายละเอียดที่ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ในเว็ป http://www.dst.or.th/vdo_p.php

กลูตาไธโอน (Glutathione)
จาก ความรู้ที่ว่าสารกลูต้าไธโอน ที่ทางการแพทย์ใช้รักษาโรคอื่น ๆ เมื่อใช้ไปแล้วจะทำให้ผิวขาวขึ้น จึงมีผู้นำมาใช้ฉีดให้ผิวขาว โดยมีการโฆษณาเกินความจริงว่าเมื่อฉีดแล้วผิวจะขาว กระจ่างใสเหมือนกับมีแสงออร่า ความจริงคืออะไร เรามาทำความรู้จักสารกลูต้าไทโอนกันก่อนเป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ระบบภูมิ คุ้มกันร่างกาย ปกติแพทย์จะใช้ในปริมาณเพียง 200 มิลลิกรัมต่อครั้ง มีกลุ่มคลินิกเสริมความงาม เป็นสารอ้างว่าใช้ผสมกับวิตามินซี ฉีดทำดีท็อกซ์ผิวขาว
กลูตาไธโอน เป็น tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cysteine), กรดกลูตามิค (glutamic acid) และไกลซีน (glycine) ซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ และมีในอาหาร เช่น นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม
กลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้ตับขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และยังนำมารักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ข้ออักเสบ โรคพาร์กินสัน โรคตับ โรคไต โรคเอดส์ ภาวะเป็นหมันในเพศชาย และภาวะหูตึงจากเสียงดัง ผลข้างเคียงทำให้ผิวขาว



หน้าที่หลักของสารตัวนี่ที่เด่นมีอยู่ 3 ประการ คือ
1. Detoxification : กลูต้าไทโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ

2. Antioxidant : กลูต้าไทโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่

3. Immune Enhancer : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย2 โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูตาไทโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ prostaglandin


ข้อบ่งใช้ในทางการแพทย์
สารนี้บางประเทศขึ้นทะเบียนเป็นยา และบางประเทศใช้เป็นอาหารเสริม แต่ในประเทศไทยสารนี้ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีรายงานการใช้สารกลูต้าไทโอนในหลายกรณี เช่น โรคทางระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน โดยใช้ฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำ ใช้รักษาภาวะการเป็นพิษจากโลหะหนัก พิษจากยาพาราเซ็ทตามอล ทำลายพิษในตับ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในคนไข้ AIDS, มะเร็ง และใช้ต้านความชรา แต่ ข้อมูลที่ใช้รักษาฝ้า และทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งเหมือนมีแสงออร่า นั้นยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน พบว่าเป็นผลข้างเคียงจากการใช้สารนี้ที่ใช้รักษาโรคอื่นแล้วผิวขาวขึ้น จึงมีการนำมาใช้ทำให้ผิวขาวขึ้น

ปัญหาของกลูต้าไธโอน
1. ผล ข้างเคียงที่น่ากลัว คือการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำ มีโอกาสที่จะแพ้ได้ ทั้งการแพ้สารกลูต้าไธโอน เอง หรืออาจจะแพ้ สารฆ่าเชื้อ หรือ สารกันเสีย หรือ สารปนเปื้อน ขณะนี้มีรายงานในต่างประเทศว่าผู้ ที่ได้รับการฉีดกลูต้าไธโอนขนาดสูงที่ใช้กันอยู่มีอาการช็อค ความดันต่ำ หายใจไม่ออก และเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
2. สารกลูต้าไธโอน[ที่ใช้อยู่เป็นการลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สารนี้ที่ใช้ในการแพทย์ มีชื่อว่า Tationil ซึ่งผลิตโดยบริษัท Roche ประเทศอิตาลี แต่บริษัท Roche ประเทศไทย ได้ยืนยันมาว่าบริษัทไม่ได้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย และยังพบว่ามียาปลอมมีที่ผลิตที่เวียดนามและจีน โดยที่พิมพ์ว่าผลิตในอิตาลี ทำให้เกิดผลข้างเคียงในการฉีดได้

3. การที่ฉีดมักจะให้วิตามินซีในขนาดสูงร่วมด้วย ซึ่งการฉีดวิตามินซี ในขนาดที่สูงและเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดอาการมึนศีรษะ คล้ายจะเป็นลมได้
4. พบว่าการที่ได้รับสารกลูต้าไธโอนเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เม็ดสีที่จอตาลดลง ทำให้รับแสงได้น้อยลง เสี่ยงต่อการมองเห็นได้ในอนาคต ทางวารสารทางการแพทย์สหรัฐอเมริกาจัดว่าเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง ทางตา
5. การใช้สารกลูต้าไธโอนในผู้ป่วยมะเร็งทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดลดลง
6. การได้รับสารกลูต้าไธโอนปริมาณมาก มีผลต่อแร่ธาตุในขบวนการเมตาบอลิซึม และตัวมันเองสามารถกลายเป็นอนุมูลอิสระ มาทำร้ายร่างกายได้
7. ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในเรื่อง กลูต้าไธโอนนั้น เท่าที่ทราบมีการขายเกลื่อนตามเว็บไซต์ ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงเป็นหมื่นบาท และมีการแนะนำวิธีฉีด และอวดอ้างสรรพคุณ จนทำให้คนที่อยากขาวเกิดความสนใจ และซื้อหาไปทดลองทั้งฉีดกันเองซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ การติดเชื้อ และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย

8. การใช้เข็มฉีดเข้าตัวเองกันอย่างแพร่หลาย โดยไม่ระมัดระวังและคำนึงถึงสุขอนามัยแล้ว อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกนับไม่ถ้วน

สาวๆวัยรุ่นสไตล์เกาหลีไม่ควรหลงเชื่อโฆษณาที่อ้างว่าสามารถช่วยให้ผิวขาวขึ้น เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างถาวร ผลิตภัณฑ์ หรือยาอาจจะช่วยได้ชั่วคราว แต่เมื่อหมดฤทธิ์ร่างกายก็จะผลิตเม็ดสีตามปกติ ทั้งนี้การที่ประชาชนในแถบเอเชียมีผิวคล้ำถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ เพราะสามารถป้องกันแสงอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ได้ ทำให้โอกาสการเกิดมะเร็งผิวหนังน้อยกว่าคนผิวขาว จึงไม่ควรมีค่านิยมที่ผิดในการเปลี่ยนสีผิวให้ขาวผิดธรรมชาตินะจ๊ะ


สาวๆอยากสวยแบบแฟชั่นวัยรุ่นสไตล์เกาหลี อย่าให้เขาหลอก กลูต้าไธโอน ไม่ช่วยให้ผิวขาว หรอกจ้า




ข้อมูลที่น่าสนใจ น่าติดตาม เรื่องการดูแลสุขภาพผิวของสาวๆวัยรุ่น


อ้างอิง

  1. Merck Index, 11th Edition, 4369.
  2.  ตะลึง!คลินิกรับฉีด"ดีท็อกซ์ผิวขาว"ผุดทั่วสยามฯ
  3.  http://www.healthtoday.net/thailand/skin/skin_83.html
  4.  http://www.dst.or.th/vdo_p.php
  5.  ประโยชน์ ของกลูต้าไธโอน กับผิวพรรณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ชุดชาร์จแบตมือถือ iphone ipad แบบพกพา

ชุดชาร์จแบตเตอรี่มือถือ แบบพกพา สามารถใช้ได้กับ iphone 4s , ipad และมือถือรุ่นอื่นๆอีกมากมาย เหมาะสำหรับพกพาในการเดินทางไปที่ต่างๆ battery backup portable charger travel and adventure